รสของวรรณคดีไทย แบ่งออกเป็น ๔ รส คือ ๑. เสาวรจนี (รสแห่งความเพลิดเพลิน) ได้แก่บทชมโฉม ชมความงามของวัตถุสิ่งของ หรือชมธรรมชาติ ตัวอย่าง เสาวรจนีในเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ ๑. ๑ ตอนบรรยายความงดงามของปราสาทราชมณเทียรของเมืองราชคฤห์ อำพนพระมนทิรพระราช สุนิวาสน์วโรฬาร์ อัพภันตรไพจิตรและพา หิรภาคก็พึงชม เล่ห์เลื่อนชะลอดุสิตฐา นมหาพิมานรมย์ มารังสฤษฎ์พิศนิยม ผิจะเทียบก็เทียมทัน สามยอดตลอดระยะระยับ วะวะวับสลับพรรณ ช่อฟ้าตระการกลจะหยัน จะเยาะยั่วทิฆัมพร บราลีพิลาศศุภจรูญ นภศูลประภัสสร หางหงส์ผจงพิจิตรงอน ดุจกวักนภาลัย ๑.
นารีปราโมทย์ (บทเกี้ยวโอ้โลม) มาจากคำว่า นารี น. ผู้หญิง + ปราโมทย์ น.
รสวรรณคดีไทย แบ่งได้ ๔ ชนิด ๑. เสาวรจนีย์ (บทชมโฉม) คือการเล่าชมความงามของตัวละครในเรื่อง อาจเป็นตัวละครที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ หรือสัตว์ ซึ่งการชมนี้อาจจะเป็นการชมความเก่งกล้าของกษัตริย์ ความงามของปราสาทราชวังหรือความเจริญรุ่งเรืองของ บ้านเมือง เช่น บทชมนางเงือก ซึ่งติดตามพ่อแม่มาเพื่อพาพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร จากเรื่อง พระอภัยมณี หน่อกษัตริย์ทัศนานางเงือกน้อย ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม ประไพพักตร์ลักษณ์ล้าล้วนขาคม ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง พระเพลินพิศคิดหมายเสียดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป (พระอภัยมณี: สุนทรภู่) ๒. นารีปราโมทย์ (บทเกี้ยว โอ้โลม) คือการกล่าวแสดงความรัก ทั้งการเกี้ยวพาราสีกันในระยะแรก ๆ หรือการพรรณนาบทโอ้โลมปฏิโลมก่อนจะถึงบทสังวาสนั้นด้วย เช่น ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน แม้นเกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา แม้นเป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง เจ้าเป็นถ้าอาไพขอให้พี่ เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคูสอง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป (พระอภัยมณี: สุนทรภู่) ๓.
รสแห่งวรรณคดี ๙ รส ในสันสกฤต ๑. ศฤงคารรส ( รติรส) หมายถึงรสแห่งความรัก (เสาวรจนี นารีปราโมทย์) ๒. หาสยรส หมายถึง รสแห่งความขบขัน ( เสาวรจนี) ๓. กรุณารส หมายถึง รสแห่งความสงสาร โศกเศร้า (สัลลาปังคพิสัย) ๔. รุทธรส หมายถึง รสโกรธ ไม่พอใจ ผิดใจ (พิโรธวาทัง) ๕. วีรรส หมายถึง รสแห่งความกล้าหาญ ( เสาวรจนี สัลลาปังคพิสัย) ๖. ภยานกรส หมายถึง รสแห่งความกลัว สะดุ้ง ( สัลลาปังคพิสัย) ๗. วิภัจฉรส หมายถึง รสที่ก่อให้เกิดความเกลียด ขยะแขยง ( พิโรธวาทัง) ๘. อัพภูตรส หมายถึง รสแห่งความอัศจรรย์ใจ ตื่นเต้น ( เสาวรจนี) ๙. ศานติรส รสแห่งความสงบ บริสุทธิ์ ( เสาวรจนี)