15 วันเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทางอำเภอยืนยันให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หลังชาวบ้านรับฟังคำชี้แจงจากนายอำเภอนางรองแล้วต่างพอใจ จึงพากันสลายตัว เดินทางกลับในเวลาต่อมา
หนองโสน กล่าวว่า บ้านโคกว่านเป็นหมู่บ้านที่ทำข้าวเม่ามาช้านานตั้งแต่ปู่ย่าตายายมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน จากเมื่อก่อนตำบริโภคแบ่งปันกันและไปงานบุญต่างๆ แต่พอมีผู้นิยมซื้อจึงทำเป็นอาชีพ ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงหมู่บ้าน ด้วยรสชาติและคุณภาพข้าวเม่าบ้านโคกว่าน ทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ระดับประเทศประเภท "ข้าวเม่าไรซ์เบอร์รี" ซึ่งในส่วนของ อบต. ได้เข้ามาส่งเสริมเรื่องการจัดหาตลาด บรรจุภัณฑ์ และตราสัญลักษณ์หรือแบรนด์ของตัวเอง ทั้งนี้ ทาง อบต. ยังได้ร่วมกับชาวบ้านเตรียมจัดงาน "เทศกาลข้าวเม่ากินข้าวเม่ารับลมหนาว" เป็นปีแรก ในวันที่ 29-30 ธันวาคม 2559 ที่จะถึงนี้ด้วย เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของข้าวเม่าที่ทำให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้าวเม่าของบ้านโคกว่านด้วย โดยภายในงานก็จะมีการจัดประกวดข้าวเม่า ตำข้าวเม่าแบบโบราณ สาธิตการทำข้าวเม่า ชิมข้าวเม่าฟรีกว่า 500 กิโลกรัม และกิจกรรมอื่นๆ
สัตหีบ แต่ไม่ต้องเลี้ยวเข้า อ. สัตหีบ วิ่งมาจนเจอพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทางขวา มือ และ ป้ายบอกทางไปวัดช่องแสมสารหลวงพ่อดำ ให้ชิดขวาแล้วกลับรถ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ขับตามทางมาเรื่อยๆ โดยไปทางเดียวกับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (มีป้ายบอกทางตลอด) รถโดยสาร: จากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยมาลงที่อำเภอสัตหีบ แล้วต่อรถสองแถวสายสัตหีบ-แสมสาร ซึ่งมีให้บริการระหว่างเวลา 05. 30-18. 30 น.
สัตหีบ จ. ชลบุรี เบอร์โทรศัพท์: 09-0728-4917, 08-8447-2461 ข้อมูลจากแหล่งอื่น และ รีวิว Pantip: 1 2 3
เผยแพร่: 21 ธ. ค. 2559 11:24 ปรับปรุง: 21 ธ. 2559 12:20 โดย: MGR Online บุรีรัมย์ - ชาวบ้านโคกว่าน อ. นางรอง จ. บุรีรัมย์ ทั้งหมู่บ้านกว่า 100 ครัวเรือนสืบทอดภูมิปัญญาจากปู่ย่าตายาย ทำข้าวเม่าจากข้าวเปลือกปลูกเองเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มขาย สามารถสร้างรายได้เข้าหมู่บ้านครัวเรือนละ 4-5 แสนบาท รวมปีละกว่า 60 ล้านบาท อีกทั้งคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 2 "ข้าวเม่าไรซ์เบอร์รี" เผยปีใหม่มีออเดอร์เพียบหลายร้อยกิโลฯ วันนี้ (21 ธ. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบ้านโคกว่าน ม. 1 ต. หนองโสน อ.
ไอ๋เหว่ย? เด็กทารกแรกเกิด ลูกงา จมน้ำ ดึ๊กน่าม มืดสลัว มืดสอึ๊บ เขี่ยนหมาก เขี่ยนหมาก เฉอะแฉะ แฉ่ะประแประ
มีหนังสือถึงชาวบ้านที่เปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน แจ้งขอปรับขึ้นภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีป้ายเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกรายละเกือบเท่าตัว อย่างเช่น นางอุทัย จูทะรัตน์ จากเดิมเสียภาษีโรงเรือนปีละ 1, 200 บาท เพิ่มเป็น 2, 000 บาทเศษ ภาษีป้ายเดิม 200 เพิ่มเป็น 400 บาท ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านเพราะปัจจุบันมีตลาดนัดมาเปิดขายในพื้นที่ถึงสัปดาห์ละ 3 วัน ทำให้ร้านค้าในหมู่บ้านขายไม่ได้ กำไรน้อยลง แต่กลับต้องมาเสียภาษีเพิ่ม อีกทั้งทาง อบต. ไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลที่ปรับขึ้นภาษีด้วย ต่อมา นายประกิจ แดงชาติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต. ) บ้านสิงห์ ได้มารับหนังสือร้องเรียนแล้วจะรายงานทางอำเภอทราบตามขั้นตอน พร้อมกล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของชาวบ้าน หากเห็นว่าสิ่งไหนไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการตามข้อเรียกร้อง แต่ทางกลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมไม่พอใจเพราะต้องการให้นายก อบต. ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่ดำเนินการจะยกระดับการชุมนุม หรือพากันไปชุมนุมที่อำเภอ และจังหวัด จนกระทั่งเวลา 13. 00 น. นายชนาส ชัชวาลวงศ์ นายอำเภอนางรอง ได้เดินทางมาพบชาวบ้านด้วยตัวเอง พร้อมรับปากจะดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ซึ่งคงต้องใช้เวลาจะให้ย้ายทันทีคงไม่ได้เพราะข้าราชการมีระเบียบวิธีปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่ แต่ขอให้เวลากับทางอำเภอ และ อบต.
29 ม. ค. 2558 02:53 น. ชาวนางรอง จ. บุรีรัมย์ ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรม ค้านก่อสร้างฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ ของบริษัทเอกชน บนที่ดินพื้นนากว่า 60 ไร่ ห่างจากหมู่บ้านเพียง 800 เมตร หวั่นเกิดโรคระบาด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ท้ายสุดมีการเจรจาผู้เกี่ยวข้อง ยอมระงับการก่อสร้างในที่สุด... เมื่อวันที่ 28 ม. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านโคกยาง หมู่ 2 ต. ก้านเหลือง อ. นางรอง จ. บุรีรัมย์ กว่า 60 คน นำโดย นายบุญทัน รุกขชาติ เดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้าน การสร้างฟาร์มไก่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง บนเนื้อที่ท้ายหมู่บ้านจำนวน 60 ไร่ พร้อมภาพถ่ายทางดาวเทียมแสดงผังบริเวณการก่อสร้าง และบัญชีรายชื่อชาวบ้านที่ร่วมลงชื่อคัดค้านจำนวน 83 ราย 47 ครัวเรือน ซึ่งในหนังสือมีข้อความว่า มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ต้องการซื้อที่ดินซึ่งเป็นพื้นที่นา ท้ายหมู่บ้านโคกยาง หมู่ที่ 2 ต.
พอดีเก็บของเสร็จแล้ว เลยจะมาชวนไปเที่ยวแถวบ้านหน่อยครับ บ้านเกิดผมอยู่ที่บ้านหนองยายพิมพื ต. หนองยายพิมพ์ อ. นางรอง จ. บุรีรัมย์ โดยมากคนทั่วไปมักติดว่าคนบุรีรัมย์เป็นไทยเขมร แน่นอนครับไทยเขมรอยู่แล้ว แต่มีประมาณ18% เท่านั้น แต่ไทยลาวเยอะกว่าครับ ประมาณครึ่งของพลเมืองบุรีรัมย์อีกประมาณ 30% เป็นชาติพันธ์ผมเองไทยโคราช(สำเนียงนางรอง)อีก2% เป็นชาวไทยส่วย หรือกูย เท้าความให้นิดนึง ผมเป็นชาวไทยโคราชครับ บรรพบุรุษมาจากเมืองปักธงชัย ปัจจุบันคือ อ.
ไอ๋เหว่ย? เด็กทารกแรกเกิด ลูกงา จมน้ำ ดึ๊กน่าม มืดสลัว มืดสอึ๊บ เขี่ยนหมาก เฉอะแฉะ แฉ่ะประแประ เป็นบางคำที่ผมพอจะนึกได้นะครับ เป็นคำที่คนในหมู่บ้านยังพูดกันอยู่ บางคำเหมือนภาษาโคราชแต่นางรองจะสำเนียงแข็งกว่า คนนางรองบ้านเอ๋ง ไม่ต้องเกรงใจกัน แต่ถ้ามาบ้านฉัน ห่อเข่ามากิ๋นเอ๋ง ล้อเล่นเด้อ 5555 ใครมีข้อมูลเพิ่ม หรือ ผิดตรงไหนบอกกั๋นดาเด้อ ภูมิใจมากมาย ที่เกิดเป็นคนไทย ที่พูดภาษานางรอง จะรักษาไว้ให้นานเท่านาน