Marketing Activity คือ - Emotional Marketing คืออะไร
- Emotional marketing คืออะไร
- Project
- Content Calendar หน้าตาอย่างไร? จำเป็นไหมที่ต้องทำ? - nuttaputch.com
การตลาด Above the Line คืออะไร? - GreedisGoods GreedisGoods มีการเก็บ Cookies เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น หากท่านใช้เว็บไซต์ต่อไปโดยไม่ปรับตั้งค่าเราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้ ยินยอม ดูรายละเอียด
Emotional marketing คืออะไร
THE PAIN: แฟนเพจเงียบ อยากจัดกิจกรรมแต่ คิดไม่ออกว่าจะเล่นอะไรดี? กิจกรรมแบบไหนจะได้ผลตอบรับดี คนเล่นเยอะๆ ไม่ใช่จัดแล้วเงียบแบบที่เคยจัดมา THE MIND: สำหรับคนที่มีหน้าที่ดูแลแฟนเพจไม่ว่าจะเป็นเพจธุรกิจของตัวเอง หรือดูแลให้แบรนด์ ก็คงจะคุ้นชินกับการจัดกิจกรรมเพื่อทำให้เพจดูมีสีสัน ไม่นิ่ง แต่บางทีไอเดียก็ตันๆ คิดไม่ออกว่าจะจัดแบบไหน วันนี้เราจะเอา Contest Marketing Idea มาเล่าให้ฟัง เป็น 7 ไอเดีย สำหรับใช้จัดกิจกรรมบนโลกออนไลน์ เผื่อสนใจอันนไหนลองเอาไปปรับใช้กับเพจของเราให้เหมาะสมดูนะครับ 1. Photo Contests แข่งขันส่งรูปเข้าประกวด ให้ผู้ร่วมสนุกส่งรูปเข้ามาประกวดแข่งขันกับคนอื่นบนโลก Social ถ้าเป็นแบรนด์ก็จะมีโจทย์ให้ เช่น ถ่ายรูปคู่ Logo ของแบรนด์เป็นต้น ข้อดี: เข้าร่วมได้ง่าย, ผู้ใช้งานร่วมสร้างกระแสให้แบรนด์ (User-generated content) เทคนิค: กิจกรรมแบบนี้คนเล่นมักจะเบื่อ เพราะเห็นได้บ่อยมาก ใครๆก็ทำกัน ดังนั้นถ้าเราทำ ก็ควรตั้งโจทย์ที่ดูสนุก ไม่ใช้แค่โพสรูปกับโลโก้ง่ายๆแล้วจบไป 2. Video Contests แข่งขันส่งวีดีโอเข้าประกวด คล้ายๆข้อแรกแต่เป็นการส่ง VDO เข้าประกวดแทน ข้อดี: เราจะได้ Content ที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะยุคนี้คนนิยมดู VDO เยอะ แต่เนื้อหาและโจทย์ที่เราให้ไปต้องน่าสนใจจริงๆ เทคนิค: คนเข้าร่วมกิจกรรมยาก แต่ดีต่อแบรนด์ ดังนั้นรางวัลที่ใช้ต้องจูงใจผู้เล่นมากกว่าแบบ Photo Contests 3.
Project
- Marketing activity คือ 1
- Marketing activity คือ project
- Marketing activity คือ d
– อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Facebook: ติดตาม Marketeer Online ทาง Line@: @marketeer
อย่าเปิดใหญ่ใจกว้าง สมมุติว่าเรามี Maximum Incentive ที่สามารถจ่ายได้ 1, 000 บาท การเริ่มต้นที่ให้ Incentive 500 บาท เพื่อทดสอบ performance แล้วค่อยๆขยับขึ้นไปเพื่ือให้ดึงดูดใจพันธมิตร ย่อมดีกว่าเราจ่ายที่ 1, 500 ตอนเริ่มต้น แล้วลดลงเหลือ 1, 000 บาท 2. เริ่มต้นกับกลุ่มพันธมิตรที่เหมาะสม การเริ่มสร้างโปรแกรมแรก เราสามารถเลือกจัดการกับคนกลุ่มเล็กๆก่อน โดยเลือกคนที่น่าจะมีศักยภาพในการแนะนำเพื่อนได้แก่ – มีความรู้สึก Positive กับสินค้าและแบรนด์อยู่ระดับนึง เช่นเคยซื้อสินค้าซ้ำ เคยชมเชยสินค้า – มีความภูมิใจหรือภักดี (Loyalty) ในแบรนด์ของเรา เพื่อจะได้ไม่เคอะเขินในการทำหน้าที่ Referral 3. มี Material สำหรับให้พันธมิตร เข้ามาหยิบไปใช้งานครบถ้วน ตัวอย่างจาก supermetrics ที่มีไฟล์ Banner, รูปแบบ URL และมีการเอา Code ไป Embededใช้งานได้เลย 4. ระบบมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ควรจะมีหน้า Dashboard หรือ Report กลางที่ให้พันธมิตรเข้ามาตรวจสอบ Performance ของตัวเอง 4. ตั้งกติกาให้ชัดเจน มีเอกสารเรื่อง Term & Condition ให้ชัดเจนว่ากรณีไหนจะให้เครดิต Affiliate เพื่อจะจ่าย หรือไม่จ่าย Incentive เช่น เงื่อนไขการนับเป็น Duplicate Lead รอบการ Convert เช่น มีเวลาให้ซื้อสินค้า 90 วันนับจากวันที่ User คลิกเข้ามาครั้งแรก เพื่อให้เกิดความชัดเจนในผลประโยชน์ที่พันธมิตรควรได้ 5.
Content Calendar หน้าตาอย่างไร? จำเป็นไหมที่ต้องทำ? - nuttaputch.com
หน้าแรก Blog Website E-Commerce Google Ads SEO Marketing News Testimonial Activity Feature Update Course Promotion Home › บทความทั้งหมด › Category: "Marketing" Retargeting คนเข้าเว็บไซต์ง่ายๆ ผ่านโฆษณา Facebook การปรับตัวทางการตลาดเมื่อโซเชียลล่ม SOAR คืออะไร? เครื่องมือที่ช่วยวางแผนธุรกิจคุณได้ดีกว่า SWOT?? Marketing, Social Media อยากมี บัญชีรับรอง Line Official Account ต้องทำอย่างไร? Call To Action คือ อะไร? เรียกความสนใจจากลูกค้าด้วยคำสั้น ๆ แต่ทรงพลัง UTM คือ อะไร? เทคนิคการวัดผลลัพธ์การตลอดออนไลน์ Marketing, คู่มือการใช้งาน เตรียมข้อมูลสินค้ายังไงให้ ขายบน Google Shopping Tab ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Search Engine คือ อะไร? และช่วยให้ธุรกิจออนไลน์โตขึ้นได้อย่างไร Google Ads, Marketing การลงโฆษณา Google Shopping Ads เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด จากคำแนะนำของ Google วิธีการอ่านรายงานโฆษณา Shopping Ads หน้ารายงานผลที่เข้าใจง่าย ที่ใครๆ ก็เข้าใจได้ Website, Marketing, Social Media Domain Verification วิธียืนยันโดเมนบน Facebook Website, Marketing, Online Marketing, ไม่มีหมวดหมู่ 5 วิธี ฟื้นธุรกิจใกล้เจ๊ง!!
เม้าท์กระจายสไตล์ธีรพันธ์ โดย ดร.
การทำ Content Calendar เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทำงานสาย Content Management จะรู้ดีว่าค่อนข้างสำคัญเพื่อให้การบริหารจัดการคอนเทนต์นั้นสามารถดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับหลายๆ คนที่เพิ่งเริ่มทำเพจ ทำบล็อก อาจจะสงสัยกันว่ามันคืออะไร และจำเป็นต้องทำด้วยหรือ?
Vote contests เปิดร่วมโหวตสิ่งที่ชอบ เราแค่ทำรูปภาพที่มีโจทย์ หรือสิ่งของมากกว่า 1 สิ่งให้คนมาคอมเม้นเลือกสิ่งที่เค้าชอบ เช่น ชอบความพิเศษของเค้กชิ้นนี้ที่ตรงไหน? ระหว่างรสชาติ กับ ความสวยงาม, ชอบคอนโดเพดานสูง หรือส่วนกลางใหญ่มากกว่ากัน? ข้อดี: เล่นง่ายมาก ถ้ารางวัลล่อตาล่อใจหน่อยๆ อาจจะได้คนมาช่วยตอบเป็นร้อย เป็นพันคอมเม้นกันเลย เทคนิค: เราสามารถเอาคำตอบที่คนตอบไปใช้ประโยชน์ต่อได้ รู้ว่าลูกค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วนำไปพัฒนาสินค้าของเราต่อ 4. Caption Contests โพสรูปและให้คนมาช่วยเขียนคำอธิบายประกอบรูปภาพ ข้อดี: สร้างเสียงหัวเราะ ความสนุก สีสัน และความ Creative เทคนิค: ถ้าภาพที่เราเอามาใช้มีความฮามากพอ เราจะสามารถ tie-in แบรนด์เข้าไปได้โดยไม่ดูเป็นการยัดเยียดมากเกินไป 5. Fill the gap เติมคำในช่องว่าง เป็นการเล่นที่เอาเกมมาประยุกต์ มีทั้งระดับง่ายไปจนยาก ข้อดี: ถ้าคำถามง่าย คนจะเข้ามามีส่วนร่วมเยอะ เพราะการที่คนเล่น เห็นคำถามและตอบได้ จะรู้สึกสนุกกับการร่วมกิจกรรม เทคนิค: การใช้คำถามยาก ก็จะเกิดการแชร์ออกไปเพื่อท้าทายคนอื่นๆ ให้มาช่วยกันตอบต่อไป ตัวอย่างเช่น น้ำขึ้นให้รีบ___น้ำลงให้___ 6.
ในวันที่การตัดสินใจเลือกซื้อของไม่ได้มาจากเหตุผล ซื้อเพียงเพราะถูกใจทุกอย่างก็จบ เวลาตัดสินใจอะไรสักอย่าง คุณใช้อารมณ์หรือเหตุผล?