สปสช. เปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ถึงการแจกชุดตรวจ ATK เฟส 2 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง ว่า สปสช. ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย และ สภาเภสัชกรรม กระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) สำหรับประชาชนทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ตามแนวทางที่ กระทรวงสาธารณสุข กำหนด เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง โดยกระจายผ่านหน่วยบริการ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกว่า 2, 000 แห่ง ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา และสามารถติดต่อรับชุดตรวจ ATK โดยเข้าผ่านแอปฯ เป๋าตัง นพ. จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. ) เปิดเผยว่า สำหรับชุดตรวจ ATK ที่กระจายในครั้งนี้ สปสช. เน้นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงชุดตรวจ ATK ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดภาระหรือผลกระทบในการจัดหาของประชาชน โดยเพิ่มจำนวนประชาชน ที่จะเข้าถึงบริการให้มากขึ้น รวมทั้งชุดตรวจ ATK ที่กระจายในครั้งนี้ สปสช. เน้นเป็นชุดตรวจ ที่อยู่ในรายการสินค้า บัญชีนวัตกรรม เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุน การวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์ ของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาล โดย สปสช.
ตรวจสอบการดำเนินงานตามแผนงาน งานหรือโครงการต่างๆ ว่าสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ๔. ติดตามผลการปฏิบัติงานและเสนอแนะวิธีการหรือมาตรการในการปรับปรุง แก้ไข เพื่อให้การปฏิบัติตาม ๑– ๓ เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประหยัดยิ่งขึ้น รวมทั้งเสนอแนะเพื่อป้องปรามมิให้เกิดความเสียหาหรือการรั่วไหลเกี่ยวกับการเงิน หรือทรัพย์สินต่างๆ ๕. ติดตามผลการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่ผู้บริหารของส่วนงานที่รับตรวจเพื่อการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานของส่วนงานที่รับตรวจให้ถูกต้องตามที่ผู้ตรวจสอบภายในเสนอแนะ ๖. ประสานงานกับผู้ตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติงานตรวจสอบบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ๗. ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายจากสภามหาวิทยาลัย หรือคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งเป็นงานนอกเหนือจากแผนการตรวจสอบที่อนุมัติแล้วได้ตามควรแก่กรณี ทั้งนี้งานดังกล่าวต้องเป็นงานในหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายใน
(พิเศษ) ภก. กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีร้านยาที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1, 500 ร้านทั่วประเทศและยังรับสมัครเพิ่มเรื่อยๆ โดยการดำเนินการในรอบนี้ได้มีการปรับระบบใหม่ จากที่ร้านยารอรับ ATK จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเปลี่ยนเป็นให้ร้านยาสามารถจัดหาได้เอง โดย สปสช. จ่ายเงินให้ชุดละ 55 บาท ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ร้านยามีความยืดหยุ่น สามารถจัดหา ATK ได้เหมาะสมตามความต้องการของประชาชนมากขึ้น ซึ่งสภาเภสัชกรรมได้เจรจากับองค์การเภสัชกรรม (อภ. ) ให้เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดหา ATK แก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ เพราะการที่ อภ. ซื้อในล๊อตใหญ่จะช่วยให้จัดหาได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำ ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายที่มีสินค้าอยู่ในสต๊อกและยินดีขายในราคาพิเศษแก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ ทางสภาเภสัชกรรมจะจัดทำรายชื่อบริษัทที่พร้อมขาย ATK ในราคาพิเศษให้ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้รับทราบและเตรียมสั่งซื้อต่อไป "ส่วนการจ่ายเงินนั้น สปสช. จะจ่ายเงินผ่านระบบของแอปพลิเคชันเป๋าตังซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น 2 ประเด็นนี้จะเป็นหลักประกันช่วยทำให้โครงการเดินหน้าไปด้วยดี และหลังจากนี้จะมีการประชุมชี้แจงการปรับระบบให้ร้านยารับทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาแบบเดิมแล้ว และน่าจะทำให้ร้านยาสนใจเข้าร่วมกระจาย ATK มากขึ้น" รศ.