เราอยู่ในโลกแห่งข้อมูล ที่สำคัญข้อมูลเป็นสิ่งที่ค่าที่สามารถนำมาให้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะสำหรับภาคธุรกิจ จากข้อมูลที่แสดงกิจกรรมต่างๆ เช่น การค้นหาใน Google และพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ไปจนถึงการสื่อสาร และการสนทนาผ่านข้อความสมาร์ทโฟน การ Post ข้อความ รูปภาพ ที่ส่งไปยัง Social Media ต่างๆ Image Capture Video Streaming บันทึกรายการซื้อ - ขาย ต่างๆ สัญญาณ GPS จากโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งข้อมูลที่เกิดจากการใช้บริการระบบสารสนเทศขององค์การต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละวันมีการสร้างข้อมูลใหม่สูงถึง 2. 5 Quintillion byte (เมื่อเทียบกับข้อมูลในช่วงเวลาตั้งแต่ ค. ศ.
ทั้งนี้ ถึงแม้ IoT จะสามารถก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ได้มากมาย และสามารถช่วยลดต้นทุนในภาคธุรกิจได้ แต่อย่างไรก็ตาม IoT ก็มีความเสี่ยงในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลไม่ให้ถูกเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ส่วนใหญ่นั้น มีความเป็นส่วนตัวหรือส่วนบุคคล และสามารถถูกติดตามได้ตลอดเวลา จึงต้องมีการพัฒนาในส่วนนี้ต่อไป
ข้อมูลที่น่าสนใจจาก Data Never Sleep 3. 0 พบว่าจำนวนผู้ใช้งาน internet ทั่วโลกเพิ่มขึ้นสูงมาก ในปัจจุบันมีประมาณ 3. 2 พันล้านคน ซึ่งนั่นทำให้เกิดเทคโนโลยี และ innovation service ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการ แน่นอนว่าข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาก็มีจำนวนมหาศาลเช่นกัน มีคำพูดที่น่าสนใจของคุณ Jer Thorp กล่าวไว้ว่า "Not only are we doing more with data, data is doing more with us. " มันทำให้เราเข้าในการดำเนินชีวิตในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินชีวิตของคนเราให้ดีขึ้น ดังนั้น Big Data มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องจำนวนเท่านั้น แต่มันหมายถึงกระบวนการคิด วิเคราะห์ เพื่อนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ Big Data === Big Thinking มาดูกันหน่อยว่าข้อมูลถูกสร้างมาจากไหนบ้างล่ะ? สุดท้ายแล้ว น่าจะพอทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า Big Data เพิ่มมากขึ้นนะครับ ใช้งานคำว่า Big Data ให้ถูก และ เหมาะสมด้วยนะครับ Article by Somkiat Puisungnoen To be Craftmanship